ลำดับแรก ให้คุณลากปลายสายเอ็นออกมาให้ยาวมากหน่อย แล้วหาลูกตุ้มตะกั่ว
(ทุ่น) ลูกโตประมาณปลายนิ้วก้อย และยาวราวๆสองข้อนิ้วก้อย
ผูกติดกับปลายสายให้แน่น (ควรเป็นสายขนาด 12-15 ปอนด์)
ขั้นที่สอง กรอสายให้ตะกั่วขึ้นไปเกือบติดปลายคันเบ็ด
ปรับปุ่มหน่วงสปูลให้ค่อนข้างแน่น
จากนั้นก็ใช้นิ้วโป้งกดลงบนสายที่อยู่ในสปูล กดปุ่มฟรีสปูล
ตั้งคันเบ็ดให้ปลายคันชี้ขึ้นทำมุมราวๆ 45-50 องศา โดยให้ตัวรอกอยู่ด้านบน
แลัวปล่อยนิ้วโป้งที่กดอยู่บนสายเอ็นในสปูลให้ตะกั่วเลื่อนลงสู่พื้น
ให้สังเกตว่าเมื่อตะกั่วตกถึงพื้น สปูลต้องหยุดหมุนทันที จึงจะใช้ได้
(เป็นการปรับในขั้นแรก)
หากเมื่อปล่อยนิ้วจากที่กดบนสปูลแล้แต่ทว่าตะกั่วยังไม่ยอมลง
ก็แสดงว่าปรับตัวหน่วงสปูลไว้แน่นเกินไป
หรือตะกั่วเลื่อนลงแต่พอตกถึงพื้นแล้วสปูลยังคงหมุนจี๋อยู่
อย่างนี้แสดงว่าปรับตัวหน่วงสปูลไว้หลวมเกินไป
นับว่าเป็นการปรับที่ยังไม่ถูกต้อง
จงพยายามปรับต่อไปอีกจนกว่าจะได้ผลตามที่ต้องการ
จงยืนในท่าที่คุณถนัด จับคันเบ็ดให้ปลายคันชี้ไปด้านหน้า
หย่อนตะกั่วให้ห่างจากปลายคันพอสมควร (ให้สั้นไว้ก่อนดีกว่า
เมื่อชำนาญแล้วจะหย่อนให้ยาวเท่าใดก็ได้)
ใช้มือขวาจับคันเบ็ดตรงช่วงรีลซีทให้ชิดกับตัวรอก
ใช้นิ้วโป้งกดลงบนกึ่งกลางของสปูล (เพื่อไม่ให้ตะกั่วตกลงไปซะก่อน)
กดปุ่มฟรีสปูล ยกมือขวาที่กำคันเบ็ดอยู่ให้สูงขึ้นจนเสมอระดับใบหู
มือซ้ายจับที่ปลายด้ามและยกให้สูงขึ้นระดับเดียวกับมือขวาโดยนิ้วโป้งยังกด
อยู่บนสปูล แล้วทำการฟาดปลายคันเบ็ดไปทางด้านหน้าโดยแรงและรวดเร็ว
ขั้นตอนต่อไปนี้
คุณต้องใช้ความสังเกตให้ดีและจดจำขั้นตอนต่างๆให้แม่นยำ
คือเมื่อฟาดปลายคันเบ็ดไปทางเบื้องหน้า
คะเนว่าเมื่อปลายคันเบ็ดถูกฟาดมาถึงที่ ระดับหน้าผาก
ก็ให้ปล่อยนิ้วโป้งที่กดอยู่บนสปูลออก
พร้อมกับลดระดับปลายคันลงชี้ไปยังเป้าหมายเบื้องหน้า
(สังเกตุดูว่าถ้าหากสปูนปล่อยฟรีไว้มาก ก็ใช้นี้วโป้งเลียสปูนไว้ด้วยนะครับ
ย้ำว่า เลีย..นะเพราะว่าหากว่ากดแน่นไป ขีปนาวุธของคุณ
ไม่ถึงเป้าหมายแน่นอน )
คราวนี้ถึงตอนสำคัญละนะ สายเบ็ดจะฟู่หรือไม่ก็อยู่ที่ตรงนี้แหละ
คุณจงคอยสังเกตการตกของตะกั่วให้ดี ทันทีที่ตะกั่วตกลงถึงผิวน้ำ
คุณต้องรีบใช้นิ้วโป้งกดลงบนสปูลทันที อย่าชักช้า
หากคุณกดสปูลให้หยุดได้ทันก็ชัวร์ได้ว่า
โอกาสที่สายเบ็ดจะฟู่เกิดขึ้นน้อยมาก
การปล่อยมือจากการกดสปูลในช่วงที่ฟาดคันนั้น ให้สังเกตดังนี้
หากหลังจากคุณปล่อยนิ้วโป้งแล้ว
ตะกั่วตกลงน้ำทันทีในระยะที่ไม่เกิน 2 - 4 เมตรเบื้องหน้าคุณ
แสดงว่าคุณปล่อยนิ้วจากการกดสปูล ช้าเกินไป
ตะกั่วเลยตกลงน้ำทันทีใกล้ๆกับที่คุณยืนอยู่ ในทำนองกลับกัน
หลังจากคุณปล่อยมือแล้ว
เว้นระยะไปชั่วครู่ตะกั่วจึงตกลงบนผิวน้ำในระยะที่ไม่ห่างจากคุณมากนัก
ก็แสดงว่าคุณปล่อยนิ้วจากการกดสปูลรวดเร็วเกินไป
ตะกั่วจึงพุ่งโด่งขึ้นสูฟ้าแล้วก็ตกลงมาใกล้ๆคุณ
ดังนั้นแทนที่จะได้ระทางที่ไกลๆก็กลับไปได้ระยะทางในทางแนวดิ่ง
ทั้งสองกรณีนี้
คุณต้องแก้ไขด้วยวิธีการเพิ่มหรือลดระดับปลายคันก่อนที่จะปล่อยนิ้วโป้งจาก
การกดสปูล
จงพยายามฝึกบ่อยๆเพื่อให้เกิดความเคยชิน
ระยะแรกคุณอาจเหวี่ยงเหยื่อได้ไม่ไกลมากนัก
แต่เมื่อฝึกฝนจนมีความชำนาญแล้วจึงค่อยคลายตัวหน่วงออก ให้สปูลหมุนลื่นขึ้น
ก็จะได้ระยะทางที่เพิ่มไกลมากขึ้นกว่าเดิมในที่สุด และจำไว้ว่า
ทุกครั้งที่น้ำหนักของเหยื่อเปลี่ยนไปจากเดิม
คุณก็ต้องปรับการเหวี่ยงของคุณให้มีความสมดุลกับน้ำหนักเหยื่อที่เพิ่มขึ้น
และที่สำคัญมากๆคือ
คุณต้องรักษาระดับของการออกแรงเหวี่ยงให้ใกล้เคียงกันทุกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น