tag:blogger.com,1999:blog-19255554089562969152024-03-13T15:45:02.549-07:00วิธีการตกปลาtee sahimhttp://www.blogger.com/profile/01264321668442213269noreply@blogger.comBlogger3125tag:blogger.com,1999:blog-1925555408956296915.post-5974180565271279932013-01-16T18:47:00.000-08:002013-01-16T18:47:03.879-08:00วิธีการใช้สปิ๋ว<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhHGPqCcT9EhI9XWrBS2-7ZSFdmoU3beDhTUZZd7BRC0Q0Eafalbks3opAvDFg14b6q1DvGonAXDaXZkcawO0muia9CwpO3OVqmIiyV3k0pFq1kCU9VHSdAe0bpEo-PZQi-xnbTCsbMsNk/s1600/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="178" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhHGPqCcT9EhI9XWrBS2-7ZSFdmoU3beDhTUZZd7BRC0Q0Eafalbks3opAvDFg14b6q1DvGonAXDaXZkcawO0muia9CwpO3OVqmIiyV3k0pFq1kCU9VHSdAe0bpEo-PZQi-xnbTCsbMsNk/s320/%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B4%25E0%25B9%258B%25E0%25B8%25A7.jpg" width="320" /></a></div>
ชุดเบ็ดเนี่ย Tica เหมือนผมเลยน่ะครับ แต่สายผมของ sufilk xl strong 0.20
มม. เล็ก ให้ความรู้สึกดีมาก
อันดับแรกเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าลักษณะของปลาเกล็ดจะเป็นปลาที่ขี้ระแวง
มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นหมายธรรมชาติ ปลาจะเลือกกินอาหารเป็นพิเศษ
การตกจะต้องละเอียด ความอดทนสูง จากประสบการณ์ของผมน่ะครับ
พอจะแนะนำได้เผื่อเอาไปลองใช้ดูน่ะครับ <br />
1.การตั้งทุ่นต้องให้ระดับพอดี ทุ่นอยู่ผิวน้ำและเหยื่ออยู่บริเวณหน้าดิน ที่สำคัญทุ่นสะปิ๋วน่ะครับ <br />
2.จังหวะการวัดเบ็ด เราต้องพยายามสังเกตุทุ่นตลอดเวลา
และศึกษาด้วยว่าปลาแต่ละชนิดกินเหยื่อในลักษณะไหน ทุ่นลอยขึ้น ทุ่นค่อยๆจม
หรือขยับขึ้นๆลงๆ เนื่องจากปลาพวกนี้มันขี้ระแวงเราต้องมีความอดทนมาก
ตั้งแต่อ่อยเหยื่อ ชนิดและกลิ่นของเหยื่อ
เวลาลงเบ็ดแนะนำให้ลงที่เดิมที่เราได้อ่อยเหยื่อไว้ ความเงียบ
และปัจจัยอีกหลายๆ อย่างรวมๆ กัน
การเข้ามากินเหยื่อหรือมาตอมเหยื่อสังเกตุได้จาก เม็ดปลา ทุ่น
ถ้าพบเห็นสิ่งพวกนี้ก้อจับคันเบ็ดให้มั่นปรับเบรคให้พอดีเตรียมตัวได้เลย
มีเฮครับ ข้อควรระวังวัดเบ็ดไปทางไหนดูสิ่งแวดล้อมข้างหลังเราด้วยน่ะครับ <br />
3.ขอเบ็ด ที่ผมใช้น่ะครับ ตั้งขอเบ็ดเบอร์ 6 ถึงเบอร์ 10 ตูดแบน
ตามชนิดของปลา
ถามว่าชนิดของปลาหาได้จากไหนก้อลองดูจากบริเวณหมายนั่นแหละครับว่าไซค์ใหญ่
ขนาดไหน แต่ที่สำคัญอย่าเล็กเกินครับ เดี๋ยวจะอกหักได้ <br />
รายละเอียดอื่นๆ มีอีกเยอะน่ะครับ
ผมก้อแนะนำตามประสบการณ์ที่ได้ปฏิบัติมาบอกสู่กันฟังเผื่อจะมีประโยชน์กับคน
อื่นบ้าง
แต่ถ้ามีเพื่อนสมาชิกผู้ใดจะแนะนำผมก้อได้น่ะครับผมจะยินดีเป็นอย่างมากเลย
ครับเพราะผมรักในเกมกีฬาตกปลามากเป็นชีวิตจิตใจ
ตั้งแต่ผมเริ่มตกปลาแบบสะปิ๋วมา ผมสามารถการันตีได้เลยว่าผมไม่เคยอกหัก
ไว้ว่างๆ
ผมจะนำรูปมาลงให้เห็นดีกว่าเดี๋ยวจะหาว่าผมขี้โม้(อิอิ)สมาชิกท่านได้อยาก
แนะนำผมติดต่อทางเมลล์ได้น่ะครับ pipopr_<a href="mailto:4@hotmail.com">4@hotmail.com</a>หนุ่มหน้ามลคนสาระปี เจียงใหม่ครับ<br />tee sahimhttp://www.blogger.com/profile/01264321668442213269noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1925555408956296915.post-34614761873009533782013-01-16T18:29:00.000-08:002013-01-16T18:29:29.803-08:00วิธีการใช้เหยื่อปลอม<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='320' height='266' src='https://www.youtube.com/embed/TK772r7utYE?feature=player_embedded' frameborder='0'></iframe></div>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://www.siamfishing.com/content/upload2008/200810/122296178216.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="240" src="http://www.siamfishing.com/content/upload2008/200810/122296178216.jpg" width="320" /></a></div>
<span><b>การตกปลา</b>ในบ้านเรา
ส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมใช้เหยื่อปลอมในการตกปลาเท่าใดนัก
สาเหตุคงอาจจะเป็นเพราะว่า เหยื่อธรรมชาติค่อนข้างหาง่าย
และที่สำคัญคือมีราคาถูกกว่า
บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อเสียด้วยซ้ำไป<br />
อีกสาเหตุที่ทำให้เหยื่อปลอมไม่ค่อยเป็นที่นิยม
อาจเป็นเพราะว่าเพิ่งจะเริ่มมีเข้ามาวางขายกันมากขึ้นก็ในช่วงไม่กี่ปีที่
ผ่านมานี้เอง อีกทั้งราคาของเหยื่อปลอมแต่ละแบบแต่ละชนิดก็ค่อนข้างสูง<br />
<b>และที่สำคัญก็คือเพื่อน ๆ นักตกปลาส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าจะเลือกซื้อหรือเลือกใช้อย่างไร หรือประเภทใดใช้ตกกับปลาชนิดไหนในสภาพใด เป็นต้น</b><br />
เพียงเหตุผลแค่นี้ เพื่อน ๆ
นักตกปลาหลายต่อหลายคนที่หมายมั่นปั้นมือจะเลือกซื้อเหยื่อปลอมมาลองใช้ซัก
ตัวหนึ่งก็ต้องกลับมานอนคิดอีก 3 ตลบ ผลสรุปก็คือ <b>"อย่าลองเลย ดีไม่ดีจะเสียเงินเปล่า"</b><br />
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ตกปลามาเป็นเวลานานแล้วและนิยมตกปลาด้วยการ <b>ทรอลลิ่ง</b> (Trolling) คงจะรู้จักเหยื่อปลอมจำพวก ปลั๊ก (Plug) หรือหัวเจ็ท (Jet) กันดี<br />
เพื่อน ๆ
ที่นิยมตกปลาตามอ่างเก็บน้ำและตามเขื่อนก็คงจะต้องรู้จักเหยื่อปลอมพวกสปูน
(Spoon) หรือสปินเนอร์ (Spinner) เป็นอย่างดี ที่เห็น ๆ
กันอยู่ก็คงมีเพียงเท่านี้ ส่วนเหยื่อปลอมชนิดอื่น ๆ นั้น
ยังไม่ค่อยเป็นที่สนใจของเพื่อน ๆ นักตกปลาสักเท่าไร<br />
ในที่นี้
ผู้เขียนขอกล่าวถึงเหยื่อปลอมที่มีลักษณะคล้ายกับปลาตามธรรมชาติซึ่งมีอยู่
หลากหลาย
ทั้งรูปแบบและชนิดของการเลือกใช้งานให้เหมาะสมตลอดจนการใช้งานที่ถูกต้อง
หรือจะเรียกให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ว่า <b>'วิธีการใช้เหยื่อปลอมที่ได้ผล และเงื่อนไขในการใช้เหยื่อปลอม'</b><br />
เหยื่อปลอมมีอยู่ด้วยกันในปัจจุบันหลายยี่ห้อและแบบ แต่ที่จะกล่าวถึงนี้เป็นการใช้เหยื่อปลอมประเภทที่มีรูปร่างคล้ายปลาเป็นหลัก<br />
คงไม่ต้องกล่าวว่าเป็นเหยื่อยี่ห้อซึ่งดังที่สุด เพราะเพื่อน ๆ
ที่เป็นนักตกปลาต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี
เมื่อคิดว่าจะใช้เหยื่อชนิดนี้สำหรับการตกปลาหลาย ๆ พันธุ์
ก็อาจจำเป็นต้องทราบเทคนิคต่าง ๆ ที่จะกล่าวต่อจากนี้ไปเพื่อนำไปทดลองใช้
มากกว่าการที่จะเหวี่ยงเบ็ดออกไปแล้วคอยหมุนรอกกลับมาเท่านั้น<br />
<b>1. การเลียนแบบปลาเล็กที่บาดเจ็บหรือกำลังจะตาย (Dying Minnow)</b><br />
ไม่มีอะไรที่จะล่อใจปลานักล่าเหยื่อขี้ระแวงให้ตรงเข้าจู่โจมเหยื่อทันทีมาก
ไปกว่าเห็นปลาตัวเล็ก ๆ ที่บาดเจ็บหรือกำลังใกล้จะตายได้
ไม่มีปลานักล่าชนิดใดที่จะมองข้ามเหยื่อที่มันสามารถตะครุบได้อย่างง่ายดาย
ถึงแม้ว่ามันจะอิ่มจนอยากจะนอนเสียด้วยซ้ำ<br />
เหยื่อปลอมที่มีลักษณะดังกล่าวนี้ที่เพื่อนนักตกปลารู้จักกันเป็นอย่างดี
เห็นจะหนีไม่พ้นยี่ห้อ RAPALA โดยเฉพาะชนิดลอยน้ำ Original Floating
และชนิดที่ค่อย ๆ จมช้า ๆ Countdown
เหยื่อทั้งสองชนิดนี้จัดเป็นเหยื่อขนาดเล็กซึ่งมีคุณสมบัติตามที่ต้องการ
และมี Actions ในลักษณะเช่นเดียวกับปลาที่กำลังบาดเจ็บหรือกำลังจะตาย<br />
<b>การหวังผลของเหยื่อประเภทนี้</b><br />
เหยื่อประเภทนี้จะใช้ล่อปลาในตระกูลปลากระพง, ปลาม้า, ปลาจวด, ปลาช่อน,
ปลาชะโด รวมทั้งปลาในตระกูล Catfish เช่น ปลากดชนิดต่าง ๆ
อีกทั้งปลานักล่าอื่น ๆ หลายชนิด<br />
<b>วิธีใช้</b>:-
สามารถใช้เหยื่อชนิดที่ลอยน้ำติดไว้ที่ปลายสายโดยตรงหรือจะต่อผ่าน Snap
ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนให้ง่ายขึ้นก็ได้
ให้ทำการเหวี่ยงเหยื่อไปนอกชายฝั่งที่คิดว่าจะมีปลานักล่าซุ่มรออยู่<br />
สถานที่ที่ซุ่มตัวรอของปลานักล่าส่วนใหญ่มักจะเป็นสถานที่ซึ่งมันสามารถ
กำบังตัวได้ดีจากปลาเหยื่อ เช่น พงหญ้าใต้น้ำ ใต้ใบบัว ก้อนหิน ซอกหิน
ต้นไม้ที่ลอยน้ำ ซากไม้ล้ม กลุ่มตอไม้ใต้น้ำ ตามตอหม้อสะพาน
บริเวณริมตลิ่งที่น้ำเซาะเว้าลึกเข้าไปและบริเวณที่มืด ๆ<br />
เมื่อได้ที่หมายดังกล่าวหรือตำแหน่งที่ท่านคิดว่าน่าจะมีปลานักล่าซุ่มตัวรอ
อยู่แล้ว ก็จัดการปล่อยเหยื่อปลอมให้มันทำหน้าที่ของมัน
ด้วยการตีเหยื่อให้ลงตรงจุดดังกล่าวหรือให้เข้าใกล้เป้าหมายให้มากที่สุด
และใช้วิธีกระตุกปลายคันเบ็ดสักนิดให้เป็นจังหวะ ๆ
ท่านจะเห็นว่าเหยื่อปลอมดังกล่าวเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเหมือนกับปลาที่ตาย
แล้วทั่ว ๆ ไป ปล่อยให้เหยื่ออยู่เช่นนั้นสักครู่
หากไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร
ก็เริ่มตีเหยื่อเข้าไปใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียงที่คิดว่า
น่าจะมีตัว ทำเช่นนี้ประมาณ 5 - 6 ครั้ง หากว่ายังไม่มีผลใด ๆ
ก็ให้ลองเปลี่ยนสถานที่แห่งใหม่<br />
การที่เรากระตุกปลายคันจะส่งผลไปยังตัวเหยื่อปลอมให้มีการเคลื่อนไหวและมี
ลักษณะเหมือนปลาที่กำลังจะตาย
ให้กระตุกปลายคันเบ็ดโดยออกแรงให้มากพอที่จะทำให้เหยื่อซึ่งอยู่ใต้ผิวน้ำ
สั่นเร็ว ๆ หลาย ๆ ครั้ง
และปล่อยสายเบ็ดออกไปให้ยาวพอที่ทำให้เหยื่อกลับลอยขึ้นสู่ผิวน้ำได้ด้วย<br />
การกระตุกปลายคันเบ็ดนั้น
จะทำให้เหยื่อเคลื่อนตัวไปข้างหน้าในอาการที่เหมือนปลากำลังจะตายก็จริงอยู่
แต่ไม่ได้ทำให้มันลอยตัวขึ้นมาด้วย ต้องปล่อยให้เหยื่ออยู่อย่างนั้นประมาณ
10 วินาที<br />
<b>ระหว่างที่ท่านกระตุกปลายคัน
ปลานักล่าซึ่งซุ่มตัวดูอยู่อาจให้ความสนใจเหยื่อแต่ยังไม่เข้าเล่นงานเหยื่อ
เพราะเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้นว่า ปลานักล่าส่วนใหญ่มักจะขี้ระแวง</b><br />
ระหว่างที่ท่านกรอสายลากเหยื่อกลับมา ขอให้ท่านสังเกตด้วยว่ามีปลานักล่าว่ายติดตามเหยื่อของท่านมาหรือเปล่า<br />
หากว่ามี คราวนี้จึงลงมือให้เต็มที่โดยการเลียนแบบปลาที่ยังพอมีกำลังอยู่และกระเสือกกระสนเพื่อจะหนีออกไปจากบริเวณอันตราย<br />
ปล่อยสายเบ็ดออกมาให้ยาว ๆ
หันปลายคันชี้ไปที่ตัวเหยื่อและสะบัดปลายคันเบ็ดขึ้นลงเป็นจังหวะยาว ๆ
ด้วยวิธีนี้จะทำให้เหยื่อดำดิ่งลงไปอย่างเร็วและมีอาการสั่นมาก
ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวนี้จะทำให้เกิดเสียงขึ้นมาด้วย
โดยเสียงจะเกิดจากการกระทบกันโดยเร็วระหว่างตัวเบ็ดกับห่วงที่เป็นโลหะ
ทำให้เกิดคลื่นเสียงสะท้อนในน้ำซึ่งมีผลต่อการได้ยินเสียงของปลา<br />
หลังจากที่สะบัดปลายคันเบ็ดไปมาแต่ละครั้งแล้ว ก็ปล่อยให้เหยื่อค่อย ๆ
ลอยกลับขึ้นสู่ผิวน้ำ และปล่อยให้ลอยอยู่อย่างนั้นประมาณว่าสัก 10 วินาที
หากยังไม่ได้ตัวก็ให้เริ่มทำซ้ำตั้งแต่เริ่มต้นอีกสัก 5 - 6 ครั้ง
แล้วเปลี่ยนเป็นที่อื่นบ้าง<br />
หลักการต่าง ๆ ก็คือ ปลาเล็ก ๆ ที่ตายแล้วจะอยู่ทั้งบนผิวน้ำ - จมน้ำ
หรืออยู่กลางน้ำเพราะเหตุที่ว่าปลาใหญ่จะไล่กินปลาเล็กโดยมันอ้าปากว่ายพุ่ง
เข้าไปในฝูง พยายามทำร้ายปลาในฝูงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
หลังจากนั้นมันจึงจะหวนกลับมาตามกินปลาเล็กซึ่งได้รับบาดเจ็บที่ลอยอยู่<br />
ดังนี้ เทคนิคที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จึงเป็นการเลียนแบบพฤติกรรมการเข้ากินเหยื่อของปลานักล่าเป็นหลัก<br />
ยังมีพฤติกรรมอีกชนิดหนึ่งที่ใกล้เคียงกับการใช้เหยื่อชนิด Original
Floating แต่วิธีนี้เราจะใช้เหยื่อที่ชื่อว่า Countdown
เหยื่อชนิดนี้จะค่อยจมลงอย่างช้า ๆ
การลอยตัวของเหยื่อชนิดนี้จะค่อยจมลงอย่างช้า ๆ
การลอยตัวของเหยื่อจะอยู่ในระดับกลาง ๆ เมื่อท่านเหวี่ยงเหยื่อชนิดนี้ออกไป
มันจะค่อย ๆ
จมลงไปในระดับความลึกระดับหนึ่งซึ่งเหมาะสมกับปลานักล่าบางชนิดที่ชอบกิน
เหยื่อในสภาพเช่นเดียวกับปลาเล็กบาดเจ็บหรือใกล้จะตายแต่จะอยู่ในลักษณะกึ่ง
ลอยกึ่งจม<br />
วิธีใช้เหยื่อปลอมชนิดนี้ เพื่อน ๆ
อาจจะต้องศึกษาวิธีการกินเหยื่อของปลานักล่าที่ต้องการตัวเสียก่อนว่า
มีพฤติกรรมการกินเหยื่อในระดับความลึกเท่าใด<br />
โดยทั่วไปเหยื่อ Countdown จะจมลงไปใต้ผิวน้ำในอัตราความเร็ว 1 ฟุต
ในระยะเวลา 2 วินาที ให้เพื่อนลองตีเหยื่อไปยังตำแหน่งที่หวังผล
ประมาณว่าให้เหยื่อจมลงอยู่ในตำแหน่งประมาณ 1 ฟุต
เหนือขึ้นมาจากพื้นแล้วจึงค่อย ๆ
กรอสายเบ็ดลากเหยื่อกลับมาโดยให้ปลายคันเบ็ดสะบัดช่วงสั้น ๆ
เพื่อทำให้เหยื่ออยุ่ในลักษณะที่พุ่งตัวกระตุกไปข้างหน้าอย่างเต็มที่เหมือน
กับปลาที่ได้รับบาดเจ็บและกำลังดิ้นรนเพื่อหนี
หากยังไม่ได้ผลก็ขอให้ลองเปลี่ยนเป็นบริเวณที่มีระดับน้ำลึกแตกต่างกันออกไป<br />
<b>2. การเลียนแบบปลาที่ตกใจและวิ่งหนีก่อให้เกิดการสั่นสะเทือน (Jolting)</b><br />
ในกรณีที่ผิวน้ำเป็นระลอกคลื่นมากเกินไป น้ำมีสีขุ่น
การสั่นสะเทือนของเหยื่อเป็นวิธีที่จะล่อปลานักล่าให้ออกมาหาเหยื่อได้
การสั่นสะเทือนของเหยื่อปลอมจะทำให้เกิดเสียงสะท้อนใต้น้ำให้ได้ยินไปถึง
ประสาทสัมผัสของปลานักล่าได้อย่างมากมีระยะไม่เกิน 75 ฟุต<br />
เหยื่อปลอมชนิดที่ทำให้เกิดอาการสั่นสะเทือนในที่นี้ก็คือ Original, Jointed Rapala<br />
เหวี่ยงเหยื่อดังกล่าวลงไปในบริเวณซึ่งเป็นที่กำบังของปลานักล่าหรือในที่
ที่คิดว่ามีปลานักล่าซ่อนตัวอยู่ ค่อย ๆ
กระตุกปลายคันเบ็ดในขณะที่กรอสายเบ็ดกลับมาอย่างรวดเร็ว
เหยื่อชนิดนี้จะดำดิ่งจากแรงฉุดลากด้วยความเร็ว
ตัวกำเนิดเสียงในตัวเหยื่อจะมีแรงกระทบกระแทกในขณะที่อยู่ใต้น้ำจนปลานักล่า
ที่อยู่ในรัศมีใกล้เคียงก็จะรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนหรือแม้จะอยู่ในระยะไกล
ๆ ก็สามารถได้ยินได้<br />
หลาย ๆ ครั้ง ปลานักล่าจะว่ายน้ำเข้ามาดูเหยื่อใกล้ ๆ
เมื่อได้ยินเสียงหรือประสาทสัมผัสของมันรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน
เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเหยื่อที่มันต้องการก่อนที่มันจะลงมืองับเหยื่อ<br />
วิธีนี้ใช้ได้ดีกับปลานักล่าที่หาอาหารโดยการใช้ประสาทรับความรู้สึกมากกว่า
การใช้สายตา ฉะนั้นเพื่อน ๆ
ที่จะใช้วิธีนี้ต้องหมั่นทำให้เหยื่อเคลื่อนไหวอยู่เสมอและมีอาการกระทบ
กระแทกกับน้ำอยู่เรื่อย ๆ<br />
<b>3. การเลียนแบบปลาที่มีสีสันน่าสนใจและบาดเจ็บ (Fat Rapping)</b><br />
วิธี Fat Rapping
ใช้ในการล่าปลาที่เคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็วอยู่ตามชายฝั่ง เช่น ตามพงหญ้า
กอบัว พืชลอยน้ำชนิดต่าง ๆ
ซึ่งสามารถใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวของเหล่าปลานักล่า<br />
เหยื่อที่ใช้ในการนี้อาจแบ่งแยกได้เป็น 3 ชนิด คือ<br />
<b>3.1 เหยื่อชนิดดำตื้น</b><br />
ส่วนมากแล้วมักจะใช้ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เพราะเหยื่อชนิดนี้จะ
เพราะเหยื่อชนิดนี้จะมีสีสันกระจ่างเป็นมันวาว
ลองทดสอบดูก่อนว่าบริเวณดังกล่าวที่จะหย่อนเหยื่อมีที่กำบังใต้น้ำชายฝั่ง
หรือไม่<br />
จากนั้นทำการหย่อนเหยื่อลงไปในทุก ๆ ซอก และทุก ๆ ช่อง
ที่คิดว่าอาจจะมีปลานักล่าซ่อนตัวอยู่
ต่อจากนั้นก็กู้สายเบ็ดขึ้นจะด้วยวิธีการใดก็ตาม เช่น สาวสายที่มีเหยื่อ
Shallow Runner Fat Rap กลับมาหาตัวอย่างรวดเร็ว
การกระทำอย่างรวดเร็วเช่นนี้สามารถก่อให้เกิดแสงวาบขึ้นมาทำให้ปลาสนใจ
หากว่าพื้นน้ำอยู่ในสภาพเรียบสงบก็จงปล่อยให้เหยื่อลอยอยู่อย่างน้อย 2 - 3
วินาที จึงค่อยกรอสายเบ็ดเข้ามา<br />
<b>3.2 เหยื่อชนิดดำลึก</b><br />
ส่วนมาแล้วจะใช้เหยื่อชนิดนี้ในเวลาที่พระอาทิตย์เริ่มขึ้นสูงจากขอบฟ้า
เพราะเหยื่อชนิดนี้จะมีสีสันที่ออกจะทึบ เมื่ออยู่ในน้ำจะดูเป็นเงาดำ
เหยื่อ Deep Runner Fat Rap จะมีตัวถ่วงในตัวเหยื่อเอง
และเหยื่อจะจมลงไปอย่างรวดเร็วได้ 10 - 12 ฟุต<br />
วิธีใช้ก็ควรจะลากเหยื่อให้ช้าลงกว่าแบบแรกโดยการกระตุกสายที่ปลายคันเบ็ด
เรื่อย ๆ และพยายามปล่อยสายให้ยาวพอที่เหยื่อจะจมอยู่ในระดับใต้พื้นน้ำ<br />
<b>3.3 เหยื่อชนิดที่มีขนาดจิ๋ว</b><br />
เหยื่อชนิดนี้ส่วนใหญ่จะมีสีสันลวดลายที่แพรวพราวหรือเรียกอีกอย่างว่าสีสัน
ที่ฉูดฉาดเกินความเป็นจริง
แต่ที่สำคัญคือมีขนาดที่เล็กจึงเหมาะสมที่จะใช้อุปกรณ์ขนาดเล็ก สายเบ็ดเล็ก<br />
เป็นเหยื่อที่นักตกปลาส่วนใหญ่จะมีไว้สำรองในกรณีที่เหยื่อที่กล่าวข้างต้น
ทั้งสองชนิดใช้ไม่ได้ผล
อาจเป็นเพราะว่าปลานักล่ามีขนาดเล็กและเหยื่อที่ใช้มีขนาดใหญ่โตจนดูน่ากลัว
มากกว่าน่ากิน
เหยื่อชนิดนี้จึงเหมาะสมและมีผลเต็มที่เพราะมันมีลักษณะรูปร่างคล้ายคลึงกับ
ที่ปลาส่วนมากมักใช้เป็นอาหาร เหยื่อชนิดนี้รู้จักกันในชื่อ Mini Fat Rap<br />
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นตัวอย่างการใช้งานของเหยื่อปลาปลอมในเงื่อนไขต่าง ๆ
กัน ส่วนองค์ประกอบในการนำไปใช้งานจริง ๆ นั้น เมื่อเพื่อน ๆ
นักตกปลาแต่ละคนได้นำไปใช้แล้วอาจจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไปบ้าง<br />
<b>ทั้งนี้และทั้งนั้น
การใช้เหยื่อปลอมในบ้านเรายังไม่ค่อยแพร่หลายกันมากมายเช่นกับในต่างประเทศ
จำเป็นที่จะต้องให้เพื่อน ๆ นักตกปลาทุกคนนำไปทดลองและทดสอบด้วยตนเอง
และคาดหวังว่าเพื่อน ๆ คงจะประสบผลสำเร็จและหันมาใช้เหยื่อปลอมกันมากขึ้น
อย่างน้อยที่สุดก็ได้ชะลอการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้หมดช้าลงไป
ทั้งนี้ก็เพราะว่า เหยื่อปลอมนั้น
สามารถที่จะนำกลับมาใช้ได้อีกไม่มีขีดจำกัด</b><br />
ดังนั้นหากเพื่อน ๆ นำไปใช้แล้วได้ผลเป็นประการใดหรือมีการทดสอบเหยื่อปลอมประเภทใหม่ ๆ ช่วยบอกต่อ ๆ กันมาด้วย<br />
<b><u>ข้อมูลจาก</u></b> <u> OUTDOOR LIFE MAGAZINE และ SPORTS AFIELD MAGAZINE แปลโดย จิระยุทธ อำนวยผล </u> ถ่ายทอดโดย MrSHARK </span>tee sahimhttp://www.blogger.com/profile/01264321668442213269noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-1925555408956296915.post-8582085652641419452013-01-16T18:14:00.002-08:002013-01-16T18:31:07.662-08:00การใช้รอกเบสให้ถูกวิธี<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://www.siamfishing.com/content/upload2008/200810/12234303321.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="149" src="http://www.siamfishing.com/content/upload2008/200810/12234303321.jpg" width="320" /></a><iframe allowfullscreen='allowfullscreen' webkitallowfullscreen='webkitallowfullscreen' mozallowfullscreen='mozallowfullscreen' width='320' height='266' src='https://www.youtube.com/embed/wtP9rmkru-g?feature=player_embedded' frameborder='0'></iframe></div>
ลำดับแรก ให้คุณลากปลายสายเอ็นออกมาให้ยาวมากหน่อย แล้วหาลูกตุ้มตะกั่ว
(ทุ่น) ลูกโตประมาณปลายนิ้วก้อย และยาวราวๆสองข้อนิ้วก้อย
ผูกติดกับปลายสายให้แน่น (ควรเป็นสายขนาด 12-15 ปอนด์) <br />
ขั้นที่สอง กรอสายให้ตะกั่วขึ้นไปเกือบติดปลายคันเบ็ด
ปรับปุ่มหน่วงสปูลให้ค่อนข้างแน่น
จากนั้นก็ใช้นิ้วโป้งกดลงบนสายที่อยู่ในสปูล กดปุ่มฟรีสปูล
ตั้งคันเบ็ดให้ปลายคันชี้ขึ้นทำมุมราวๆ 45-50 องศา โดยให้ตัวรอกอยู่ด้านบน
แลัวปล่อยนิ้วโป้งที่กดอยู่บนสายเอ็นในสปูลให้ตะกั่วเลื่อนลงสู่พื้น
ให้สังเกตว่าเมื่อตะกั่วตกถึงพื้น สปูลต้องหยุดหมุนทันที จึงจะใช้ได้
(เป็นการปรับในขั้นแรก)
หากเมื่อปล่อยนิ้วจากที่กดบนสปูลแล้แต่ทว่าตะกั่วยังไม่ยอมลง
ก็แสดงว่าปรับตัวหน่วงสปูลไว้แน่นเกินไป
หรือตะกั่วเลื่อนลงแต่พอตกถึงพื้นแล้วสปูลยังคงหมุนจี๋อยู่
อย่างนี้แสดงว่าปรับตัวหน่วงสปูลไว้หลวมเกินไป
นับว่าเป็นการปรับที่ยังไม่ถูกต้อง
จงพยายามปรับต่อไปอีกจนกว่าจะได้ผลตามที่ต้องการ<br />
จงยืนในท่าที่คุณถนัด จับคันเบ็ดให้ปลายคันชี้ไปด้านหน้า
หย่อนตะกั่วให้ห่างจากปลายคันพอสมควร (ให้สั้นไว้ก่อนดีกว่า
เมื่อชำนาญแล้วจะหย่อนให้ยาวเท่าใดก็ได้)
ใช้มือขวาจับคันเบ็ดตรงช่วงรีลซีทให้ชิดกับตัวรอก
ใช้นิ้วโป้งกดลงบนกึ่งกลางของสปูล (เพื่อไม่ให้ตะกั่วตกลงไปซะก่อน)
กดปุ่มฟรีสปูล ยกมือขวาที่กำคันเบ็ดอยู่ให้สูงขึ้นจนเสมอระดับใบหู
มือซ้ายจับที่ปลายด้ามและยกให้สูงขึ้นระดับเดียวกับมือขวาโดยนิ้วโป้งยังกด
อยู่บนสปูล แล้วทำการฟาดปลายคันเบ็ดไปทางด้านหน้าโดยแรงและรวดเร็ว <br />
ขั้นตอนต่อไปนี้
คุณต้องใช้ความสังเกตให้ดีและจดจำขั้นตอนต่างๆให้แม่นยำ
คือเมื่อฟาดปลายคันเบ็ดไปทางเบื้องหน้า
คะเนว่าเมื่อปลายคันเบ็ดถูกฟาดมาถึงที่ ระดับหน้าผาก
ก็ให้ปล่อยนิ้วโป้งที่กดอยู่บนสปูลออก
พร้อมกับลดระดับปลายคันลงชี้ไปยังเป้าหมายเบื้องหน้า
(สังเกตุดูว่าถ้าหากสปูนปล่อยฟรีไว้มาก ก็ใช้นี้วโป้งเลียสปูนไว้ด้วยนะครับ
ย้ำว่า เลีย..นะเพราะว่าหากว่ากดแน่นไป ขีปนาวุธของคุณ
ไม่ถึงเป้าหมายแน่นอน ) <br />
คราวนี้ถึงตอนสำคัญละนะ สายเบ็ดจะฟู่หรือไม่ก็อยู่ที่ตรงนี้แหละ
คุณจงคอยสังเกตการตกของตะกั่วให้ดี ทันทีที่ตะกั่วตกลงถึงผิวน้ำ
คุณต้องรีบใช้นิ้วโป้งกดลงบนสปูลทันที อย่าชักช้า
หากคุณกดสปูลให้หยุดได้ทันก็ชัวร์ได้ว่า
โอกาสที่สายเบ็ดจะฟู่เกิดขึ้นน้อยมาก <br />
การปล่อยมือจากการกดสปูลในช่วงที่ฟาดคันนั้น ให้สังเกตดังนี้ <br />
หากหลังจากคุณปล่อยนิ้วโป้งแล้ว
ตะกั่วตกลงน้ำทันทีในระยะที่ไม่เกิน 2 - 4 เมตรเบื้องหน้าคุณ
แสดงว่าคุณปล่อยนิ้วจากการกดสปูล ช้าเกินไป
ตะกั่วเลยตกลงน้ำทันทีใกล้ๆกับที่คุณยืนอยู่ ในทำนองกลับกัน
หลังจากคุณปล่อยมือแล้ว
เว้นระยะไปชั่วครู่ตะกั่วจึงตกลงบนผิวน้ำในระยะที่ไม่ห่างจากคุณมากนัก
ก็แสดงว่าคุณปล่อยนิ้วจากการกดสปูลรวดเร็วเกินไป
ตะกั่วจึงพุ่งโด่งขึ้นสูฟ้าแล้วก็ตกลงมาใกล้ๆคุณ
ดังนั้นแทนที่จะได้ระทางที่ไกลๆก็กลับไปได้ระยะทางในทางแนวดิ่ง
ทั้งสองกรณีนี้
คุณต้องแก้ไขด้วยวิธีการเพิ่มหรือลดระดับปลายคันก่อนที่จะปล่อยนิ้วโป้งจาก
การกดสปูล <br />
จงพยายามฝึกบ่อยๆเพื่อให้เกิดความเคยชิน
ระยะแรกคุณอาจเหวี่ยงเหยื่อได้ไม่ไกลมากนัก
แต่เมื่อฝึกฝนจนมีความชำนาญแล้วจึงค่อยคลายตัวหน่วงออก ให้สปูลหมุนลื่นขึ้น
ก็จะได้ระยะทางที่เพิ่มไกลมากขึ้นกว่าเดิมในที่สุด และจำไว้ว่า
ทุกครั้งที่น้ำหนักของเหยื่อเปลี่ยนไปจากเดิม
คุณก็ต้องปรับการเหวี่ยงของคุณให้มีความสมดุลกับน้ำหนักเหยื่อที่เพิ่มขึ้น
และที่สำคัญมากๆคือ
คุณต้องรักษาระดับของการออกแรงเหวี่ยงให้ใกล้เคียงกันทุกครั้ง tee sahimhttp://www.blogger.com/profile/01264321668442213269noreply@blogger.com0